วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

ผังเมืองกทม.ลงตัวอิงฉบับปี'49


หลังจากร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่3) เตรียมเข้าสู่การนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ
พร้อมประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับกฎกระทรวง ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ทันภายในวันที่ 15 พ.ค. นี้ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะสุญญากาศนั้น
ปัญญภัสสร์ นพพันธ์ รองผู้อำนวยการ สำนักผังเมืองกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ภาพรวมผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ และการกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดิน ไม่ต่างไปจากผังเมืองรวมกทม. ฉบับ พ.ศ. 2549 มากนัก โดยมุ่งส่งเสริมการพัฒนาบริเวณที่มีขนส่งมวลชน "ระบบราง" มากขึ้น ทั้งนี้ได้เพิ่มข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดรับกับสภาพเมืองปัจจุบันที่เปลี่ยนไปจากเดิม อาทิ การมีรถไฟฟ้าสายใหม่เพิ่ม มีการสร้างศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ และที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยได้เพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน บริเวณวงแหวนรัชดาภิเษก 2 ฝั่งสีน้ำตาล (ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) ขยายเพิ่มเป็น 500 เมตรจากแนวถนนรถไฟฟ้า จากของเดิม 200 เมตร
ส่วนในเรื่อง "เกณฑ์ความกว้างถนนในการก่อสร้างอาคารสูง" ยังคงยึดผังเมืองรวมกทม. 2549 ทั้งหมด กำหนดให้ถนนและซอย ที่มีขนาดความกว้างถนนเกิน 10 เมตร สามารถสร้างอาคารสูงได้ และบริเวณพื้นที่สีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) ย.3 ยึดตามเกณฑ์ปี 2549 ให้สร้างอาคารหอพัก อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม พื้นที่ก่อสร้างไม่เกิน 1,999 ตร.ม.ได้ในถนนกว้าง 10 เมตร
สำหรับหน้าตาของ "สีผังเมือง" จะแทบไม่ต่างจากผังเมืองรวมฉบับปัจจุบันที่ประกาศใช้เมื่อปี 2549 โดยปรับปรุงเพียงเล็กน้อย เช่น บริเวณนอร์ธปาร์ค ปรับจากเดิมสีเขียว เป็นสีส้ม (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) บริเวณใกล้ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จากเดิมเป็นสีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) ให้เป็นพื้นที่สีส้ม เป็นต้น
เพิ่มซับเซ็นเตอร์ "ตลิ่งชัน"รองผอ.สำนักผังเมือง ยังกล่าวด้วยว่า การกำหนดศูนย์กลางเมือง (ซีบีดี) ยังคงเป็นย่าน สีลม สาธร เช่นเดิม แต่จะกระจาย Sub-Center หรือศูนย์ชุมชนชานเมือง เพื่อรองรับการขยายตัวมายังวงแหวนรอบนอก และรถไฟฟ้าสายใหม่ เพื่อกระจายแหล่งงาน บริการด้านการค้าออกไปรอบนอก ลดการเดินทางเข้าเมือง โดยมี 5 แห่ง ที่มีศักยภาพเข้าถึงได้ทั้งระบบทางราง และรถยนต์ ได้แก่ ย่านพระราม 2 ใกล้กับถนนวงแหวนรอบนอก ย่านมีนบุรีใกล้ตลาดมีนบุรี แนวรถไฟฟ้าสีชมพู-สีส้มมาบรรจบ ย่านบางนา ต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ย่านสะพานใหม่ และย่านตลิ่งชัน อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน)
นอกจากนี้ จะเพิ่มการขยายตัวของย่าน "พาณิชยกรรมรอง" ส่งเสริมในบางพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ การค้า การบริการ และนันทนาการ เช่น ย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ บริเวณนวมินทร์ อเวนิวที่มีการสร้างคอมมิวนิตี้มอลล์อยู่หลายแห่ง, บริเวณศูนย์การค้าซีดีซี (คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์) บริเวณเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา, แยกบางนาที่มีโครงการเมกะบางนาเข้าไปพัฒนารอไว้แล้ว เป็นต้น
เขากล่าวว่า คอนเซปต์ผังเมืองฉบับใหม่ จะเน้นเรื่องปัญหาภาวะโลกร้อนให้กรุงเทพฯ เป็นกรีนซิตี้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และลดการใช้พลังงาน รวมถึงให้เป็นผังเมืองรวมที่กำหนดแนวทางจะรับมือกับภัยพิบัติ หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554
หนุนเอฟเออาร์ โบนัส สำหรับการเพิ่มมาตรการสร้างแรงจูงใจให้เจ้าของที่ดิน โดยการเพิ่มอัตราส่วนพื้นที่สร้างอาคาร (เอฟเออาร์ โบนัส) ไม่เกิน 20% มีเงื่อนไขว่า 1.จะต้องจัดให้มีพื้นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ที่มีราคาต่ำกว่าตลาด หรือผู้อยู่อาศัยเดิมภายในพื้นที่โครงการ ให้เอฟเออาร์โบนัส ไม่เกิน 20% 2.จัดให้มีพื้นที่โล่งเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือสวนสาธารณะ 3.จัดให้มีอาคารประหยัดพลังงาน (กรีนบิลดิ้ง) ตามมาตรฐานมูลนิธิอาคารเขียวที่ไทยรองรับ แยกเป็นระดับที่ 1 (Certified) ได้โบนัสไม่เกิน 5% ระดับที่ 2 (Silver) ได้ไม่เกิน 10% ระดับที่ 3 (Gold) ไม่เกิน 15% และระดับที่ 4 (Platinum) ไม่เกิน 20%
และ4. จัดให้มีพื้นที่รับน้ำในแปลงที่ดินที่ขออนุญาต กักเก็บน้ำได้ไม่น้อยกว่า 1 ลูกบาศก์เมตรต่อที่ดิน 50 ตารางเมตร จะได้โบนัสสร้างพื้นที่อาคารใหม่ได้ไม่เกิน 5% หากมากกว่า 1 ลูกบาศก์เมตรได้โบนัสไม่เกิน 20% และ5 จัดให้มีที่จอดรถยนต์โดยรอบสถานีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดิน บีทีเอส แอร์พอร์ตลิงก์ สายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) สำหรับคนทั่วไปเพิ่มขึ้นจากจำนวนที่จอดรถยนต์ของอาคารสาธารณะ มีโบนัสสร้างอาคารเพิ่มได้ไม่เกิน 20%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น