วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ชาวบางระกำปลูกพริกขาย สร้างรายได้งามก่อนน้ำฤดูน้ำหลาก


ชาวบางระกำปลูกพริกขาย สร้างรายได้งามก่อนน้ำฤดูน้ำหลาก

ปลูกพริกสร้างรายได้งาม

วันนี้( 26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ 15 บ้านวังกุ่ม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี และปีนี้ชาวบ้านที่นอกเหนือจากการทำนา ได้หันไปปลูกพืชอายุสั้นแทน เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ทันต่อฤดูน้ำหลาก เป็นการสร้างรายได้อย่างดี โดยเฉพาะการปลูกพริกพันธุ์เขียวยอดสน ของนางทองคำ โพธิ์ศรีแก้ว ชาวบ้านบ้านวังกุ่ม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้หันมาปลูกพริก สลับกับถั่วฝักยาว โดยเฉพาะพริก ที่ขณะนี้กำลังออกผลผลิตและสามารถเก็บนำไปขายสร้างรายได้ก่อนฤดูน้ำหลากจะมา ถึงในปีนี้


ชาวบ้างระกำปลูกพริกขาย
ปลูกพริกขายก่อนน้ำท่วม


นางทองคำ โพธิ์ศรีแก้ว เจ้าของไร่พริก กล่าวว่า ในทุกๆปีน้ำจะท่วมนานกว่า 3-4 เดือนส่งผลให้ชาวบ้านปลูกข้าว ได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ทำให้ตนจึงได้นำพื้นที่ที่เหลือทำปลูกพืชอายุสั้น เพื่อหารายได้อีกทางหนึ่ง โดยตนเองได้ปลูกพริกพันธุ์เชียวยอดสน จำนวน 4,000 ต้นในเนื้อที่ 10 ไร่ ปลูกเพียง 1 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว โดยตนเองสามารถเก็บพริกขายได้ จำนวน 4-5 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1 ตัน ขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในกิโลกรัมละ 20-25 บาท ทำให้ตนเองจะมีรายได้ในการเก็บพริกแต่ละครั้งประมาณ 20,000 บาท ถือว่าเป็นการสร้างรายได้ดี เหมือนกับการทำนาเช่นกัน ด้านการตลาดนั้นก็จะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงไร่พริกทีเดียว


ชาวบางระกำปลูกขายก่อนน้ำหลาก


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
PHITSANULOK HOTNEWS
http://www.phitsanulokhotnews.com/18557

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เผยโฉม มักลี สุนัขน่าเกลียดที่สุดในโลก 2012


เผยโฉม มักลี สุนัขน่าเกลียดที่สุดในโลก 2012





เรียบเรียงข้อมูลโดนกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wordpress.com

              เมื่อ วันที่ 24 มิถุนายน เว็บไซต์เทเลกราฟของอังกฤษ รายงานว่า  มักลี (Mugly) สุนัขพันธุ์ไชนีสเครสต์เลือดอังกฤษ คว้าตำแหน่งสุนัขที่น่าเกลียดที่สุดในโลก 2012 ในงานประกวดประจำปีที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

              หลังจากปีที่แล้ว เจ้าโยดา สุนัขพันธุ์ไชนีสเครสต์ คว้าตำแหน่งสุนัขพันธุ์ไชนีสเครสต์ไปครอง มาปีนี้ ก็มีสุนัขพันธฺุ์ไชนีสเครสต์อีกตัวที่คว้ารางวัลชนะเลิศไปนอนกอดอีกแล้ว นั่นก็คือ เจ้ามักลี สุนัขกู้ภัย วัย 8 ปี จากอังกฤษ ซึ่งเคยได้รับตำแหน่งสุนัขที่อัปลักษณ์ที่สุดในอังกฤษมาแล้วเมื่อปี 2005 มาปีนี้ มันโดดเด่นมากในเรื่องหน้าตาที่แย่ และการแสดงที่ห่วย จึงทำให้มันเอาชนะสุนัขตัวอื่นไปได้คว้ารางวัลในที่สุด

              สำหรับ รางวัลที่มะหมาและเจ้านายจะได้รับนั่นก็คือ เงินรางวัล 1,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 30,000 บาท และอาหารสุนัขสำหรับ 1 ปี พร้อมกับได้รับเชิญถ่ายแบบ รวมถึงสามารถเข้าพักโรงแรมเชอราตันอย่างวีไอพีอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้รับการเลี้ยงฉลองด้วยการนั่งรถลิมูซีนสุดหรูด้วยแหนะ (ว้าว)

              ด้านเบฟ นิโคลสัน ชาวอังกฤษ ผู้เป็นเจ้าของสุนัขที่น่าเกลียดที่สุดในโลก เผยว่า ตนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและพูดไม่ออกเลยตอนที่พวกเขาประกาศชื่อ "มักลี"  ซึ่ง มักลี เป็นสุนัขที่วิเศษมาก มันค่อนข้างจะอดทนและเป็นสุนัขที่อ่อนโยนมาก และตนก็ดีใจที่นำความภาคภูมิใจมาสู่ชาวอังกฤษอีกครั้ง


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://pet.kapook.com/view42911.html

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แผ่นดินไหว


แผ่นดินไหว เป็นปรากฏการณ์การสั่นสะเทือนหรือเขย่าของพื้นผิวโลก เพื่อปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล ซึ่งแผ่นดินไหวสามารถก่อให้เกิดความเสียหายและภัยพิบัติต่อบ้านเมือง ที่อยู่อาศัย สิ่งมีชีวิต ส่วนสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวนั้นส่วนใหญ่เกิดจากธรรมชาติ โดยแผ่นดินไหวบางลักษณะสามารถเกิดจากการกระทำของมนุษย์ได้ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่าที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ นักธรณีวิทยาประมาณกันว่าในวันหนึ่ง ๆ จะเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 1,000 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นดินไหวที่มีการสั่นสะเทือนเพียงเบา ๆ เท่านั้น คนทั่วไปไม่รู้สึก
แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (แนวระหว่างรอยต่อธรณีภาค) ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของชั้นหินขนาดใหญ่เลื่อน เคลื่อนที่ หรือแตกหักและเกิดการโอนถ่ายพลังงานศักย์ ผ่านในชั้นหินที่อยู่ติดกัน พลังงานศักย์นี้อยู่ในรูปคลื่นไหวสะเทือนจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว (focus) มักเกิดตามรอยเลื่อน อยู่ในระดับความลึกต่าง ๆ ของผิวโลก เท่าที่เคยวัดได้ลึกสุดอยู่ในชั้นแมนเทิล
ส่วนจุดที่อยู่ในระดับสูงกว่า ณ ตำแหน่งผิวโลก เรียกว่า "จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว" (epicenter) การสั่นสะเทือนหรือแผ่นดินไหวนี้จะถูกบันทึกด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า ไซสโมกราฟ โดยการศึกษาเรื่องแผ่นดินไหวและคลื่นสั่นสะเทือนที่ถูกส่งออกมา จะเรียกว่า "วิทยาแผ่นดินไหว

แหล่งกำเนิด

แผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นจะมีความหนาต่างกัน โดยบางแผ่นมีความหนาถึง 70 กิโลเมตร ในขณะที่บางแผ่น เช่น ส่วนที่อยู่ใต้มหาสมุทร จะมีความหนาเพียง 6 กิโลเมตร นอกจากนี้แผ่นเปลือกโลกแต่ละแห่งยังมีส่วนประกอบทางกายภาพและทางเคมีที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่แยกออกจากกันหรือชนกัน จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ที่มีความรุนแรงมากน้อยต่างกัน
แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวหรือบริเวณตำแหน่งศูนย์กลางแผ่นดินไหว จะอยู่ที่บริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลก โดย 80 เปอร์เซ็นของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น จะเกิดรอบ ๆ มหาสมุทรแปซิฟิก หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วงแหวนแห่งไฟ" (Ring of Fire)
ส่วนเขตเกิดแผ่นดินไหวอื่น ๆ นอกจากแนววงแหวนแห่งไฟแล้ว มักจะเกิดในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผ่านแถบประเทศแถบยุโรปตอนใต้ เช่น อิตาลี กรีซ จนถึงแถบอนาโตเลีย ซึ่งคือประเทศตุรกี ผ่านบริเวณตะวันออกกลาง จนถึงเทือกเขาหิมาลัย บริเวณประเทศอัฟกานิสถาน ปากีสถาน จีน และพม่า แต่อย่างไรก็ตาม เคยเกิดแผ่นดินไหวในประเทศอังกฤษ ซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อนขนาดใหญ่ แต่เป็นเพียงแผ่นดินไหวขนาดเล็กเท่านั้น...................................

สาเหตุการเกิดแผ่นดินไหว

[แก้]แผ่นดินไหวจากธรรมชาติ

แผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโกเมื่อ พ.ศ. 2449
ความเสียหายของอาคารจากแผ่นดินไหวที่โกเบ เมื่อ พ.ศ. 2538
แผ่นดินไหวจากธรรมชาติเป็นธรณีพิบัติภัยชนิดหนึ่ง ส่วนมากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน อันเนื่องมาจากการปลดปล่อยพลังงานเพื่อระบายความเครียด ที่สะสมไว้ภายในโลกออกมาอย่างฉับพลันเพื่อปรับสมดุลของเปลือกโลกให้คงที่ โดยปกติเกิดจากการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อน ภายในชั้นเปลือกโลกที่อยู่ด้านนอกสุดของโครงสร้างของโลก มีการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ อยู่เสมอ (ดู การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก) แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อความเค้นอันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงมีมากเกินไป ภาวะนี้เกิดขึ้นบ่อยในบริเวณขอบเขตของแผ่นเปลือกโลก ที่ที่แบ่งชั้นเปลือกโลกออกเป็นธรณีภาค (lithosphere) เรียกแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณขอบเขตของแผ่นเปลือกโลกนี้ว่า แผ่นดินไหวระหว่างแผ่น (interplate earthquake) ซึ่งเกิดได้บ่อยและรุนแรงกว่า แผ่นดินไหวภายในแผ่น (intraplate earthquake)

[แก้]แผ่นดินไหวจากการกระทำของมนุษย์

มีทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การระเบิด การทำเหมือง สร้างอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนใกล้รอยเลื่อน การทำงานของเครื่องจักรกล การจราจร รวมถึงการเก็บขยะนิวเคลียร์ไว้ใต้ดิน เป็นต้น
  • การสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอาจพบปัญหาการเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากน้ำหนักของน้ำในเขื่อนกระตุ้นให้เกิดการปลดปล่อยพลังงาน ทำให้สภาวะความเครียดของแรงในบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งทำให้แรงดันของน้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดพลังงานต้านทานที่สะสมตัวในชั้นหิน เรียกแผ่นดินไหวลักษณะนี้ว่า แผ่นดินไหวท้องถิ่น ส่วนมากจะมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึก 5-10 กิโลเมตร ขนาดและความถี่ของการเกิดแผ่นดินไหวจะลดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าสู่ภาวะปกติ รายงานการเกิดแผ่นดินไหวในลักษณะเช่นนี้เคยมีที่ เขื่อนฮูเวอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2488 แต่มีความรุนแรงเพียงเล็กน้อย เขื่อนการิบา ประเทศซิมบับเว เมื่อ พ.ศ. 2502 เขื่อนครีมัสต้า ประเทศกรีซ เมื่อ พ.ศ. 2506 และครั้งที่มีความรุนแรงครั้งหนึ่งเกิดจากเขื่อนคอยน่า ในประเทศอินเดีย เมื่อ พ.ศ. 2508 ซึ่งมีขนาดถึง 6.5 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 180 คน[1]
  • การทำเหมืองในระดับลึก ซึ่งในการทำเหมืองจะมีการระเบิดหิน ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นได้
  • การสูบน้ำใต้ดิน การสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้มากเกินไป รวมถึงการสูบน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ชั้นหินที่รองรับเกิดการเคลื่อนตัวได้
  • การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดิน ก่อให้เกิดความสั่นสะเทือนจากการทดลองระเบิด ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดผลกระทบต่อชั้นหินที่อยู่ใต้เปลือกโลกได้



วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เมาขับชนดะห้าแยกโคกมะตูม 10 คันรวด


เมาขับชนดะห้าแยกโคกมะตูม 10 คันรวด



ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มิถุนายน 2555 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่จังหวัดพิษณุโลก   เกิดเหตุ รถยนต์กระบะวีโก้ สีบรอนซ์ทอง  หมายเลขทะเบียน กจ 5722  พิษณุโลก  ขับเฉี่ยวชน รถยนต์   และรถจักรยานยนต์ จำนวนหลายคัน บริเวณห้าแยกโคกมะตูม ถนนพิชัยสงคราม  อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นหญิง 2 ราย  และมีผู้เสียหายจำนวนมาก




โดยผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เป็นชายวัยรุ่น  มีลักษณะมึนเมา   เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวลง มาจากรถ  ก็ส่งเสียงโวยวาย  อ้างว่าตนเองเป็นลูกนายทหาร ยศนายพัน บริเวณกระจกหน้ารถมี สติ๊กเกอร์ อนุญาตเข้าค่ายระบุว่า ผู้ใช้รถ คือ พ.ท.ไพบูรณ์ โพธิ์ทอง กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ. ในระหว่างที่เหตุวุ่นวาย การจราจรติดขัดอย่างหนักอยู่นั้น ชายหนุ่มคนดังกล่าว ได้ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา   จนเกือบถูกประชาชนที่มามุงดูเหตุการณ์  รุมประชาทัณฑ์  เจ้าหน้าที่ต้องสวมกุญแจมือ  ก่อนจะนำไปสงบสติอารมณ์ ที่สภ.เมืองพิษณุโลก


จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์  ทราบว่า รถยนต์กระบะวีโก้  ได้ขับมาในเส้นทางดังกล่าวด้วยความ เร็วสูง  และตลอดเส้นทาง กว่า 3 กิโลเมตร  ก็ขับเฉี่ยวชน ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาตลอดทาง จนกระทั่งมาชนท้าย รถยนต์ที่จอดติดไฟแดงอยู่ อย่างแรง   จนสภาพรถยับเยิน  อีกทั้งยังมีลักษณะคล้ายคนมึนเมา  ไม่มีสติ  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์  และตรวจสารเสพติดในร่างกาย ก่อนจะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


พ.ต.ท.วิเชียร  มาอยู่ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลก  เปิดเผยว่า ผู้ขับรถยนต์ดังกล่าวชื่อนายอัครพล  หมวดใจ อายุ 20 ปี ให้การว่าก่อนเกิดเหตุไปร่วมงานบวชพระมาก่อน และได้ก่อเหตุเฉี่ยวชนรถกระบะ 1 คัน บริเวณแยกโคกช้าง และขับหลบหนีคู่กรณีเข้ามาทางแยกเรือนแพ เข้าสู่ถนนพิชัยสงคราม และมาชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อีกหลายคันบริเวณห้าแยกโคกมะตูม รวมแล้ว 10 คัน หลังก่อเหตุตำรวจได้ควบคุมตัวมาที่สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีหลายข้อหา ทั้งเมาแล้วขับ ขับรถยนต์โดยประมาท ซึ่งมีญาติ ๆ ของนายอัครพล มาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายและผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานพิษณุโลกนำส่งรักษาตัวที่รพ.รัตนเวช ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายคือ  นางเบญมาศ  มากน้อย อายุ 28 ปี และดญ.กฤษณา  มาประสพ อายุ 14 ปี 


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
PHITSANULOK HOTNEWS
http://www.phitsanulokhotnews.com/17929

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สุดอัจฉริยะ


สุดอัจฉริยะ! เด็กจีนวัย 16 เรียนปริญญาเอก

        


        
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ปักกิ่งช็อตส์ของจีน รายงานว่า จาง ซินหยาง เด็กหนุ่มจีนวัย 16 ปี กลายเป็นเด็กที่ได้รับการพูดถึงไม่สร่างซา หลังจากมหาวิทยาลัยในจีน ได้รับเขาเข้าเรียนระดับปริญญาเอกเมื่อหลายเดือนก่อน จากภาวะอัจฉริยะ เก่งเกินวัยของเขานั่นเอง
        
        
โดยก่อนหน้านี้ จาง ซินหยาง กลายเป็นที่รู้จักในสังคมจีนมานานแล้ว ด้วยความอัจฉริยะของเขาที่มีมาตั้งแต่เด็ก โดยเขาเป็นคนชอบตั้งคำถาม หาคำตอบ และศึกษาหาความรู้เรื่องต่าง ๆ ขณะที่เด็กวัยเดียวกันกำลังเล่นซุกซนตามประสา ทำให้ จาง ซินหยาง สอบเทียบชั้นที่สูงกว่าได้ถึง 3 ปี และสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ขณะมีอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น จากนั้นเขาก็ใช้เวลาเรียนระดับปริญญาตรีเพียง 2 ปีครึ่ง ก่อนจะเรียนต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปักกิ่ง ขณะมีอายุได้ 13 ปี
        
                  และในวันนี้ 3 ปีให้หลัง จาง ซินหยาง ก็กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้รับเขาเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ด้านคณิตศาสตร์
ทำให้เขาได้รับการยอมรับว่า เป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่อายุน้อยมากที่สุดในประเทศจีน เพราะเขาสามารถทำได้ในขณะที่มีอายุเพียง 16 ปี ซึ่งหากเทียบกับเด็กในวัยเดียวกันแล้ว เด็กคนอื่นยังคงศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลายอยู่เลย
        
        
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการสอบเข้าเรียนระดับปริญญาเอกได้ ในวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น จะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ก่อนหน้านี้ เขาได้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในจีนไม่น้อย หลังจากเขาออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนจีนว่า เขาจะไม่เรียนปริญญาเอก ถ้าหากพ่อแม่ของเขาไม่ซื้อบ้านให้กับเขา
โดยให้เหตุผลว่าเขาสานฝันให้ครอบครัว ทำในสิ่งที่พ่อแม่อยากจะทำแต่ทำไม่ได้ มันจึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องมอบสิ่งที่เขาต้องการให้ เขาอยากมีบ้านสักหลัง และถ้าหากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปนานกว่านี้ ราคาบ้านจะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน
        
        
ส่วนทางด้านฮุ่ยเซียง พ่อของจาง ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตอนที่จางยังอาศัยอยู่ที่บ้านในเมืองเทียนจินกับครอบครัว จางไม่เคยมีความคิดแบบนี้ แต่หลังจากที่จางได้เข้าไปเรียนในปักกิ่งแล้ว เขาก็เหมือนถูกค่านิยมของคนเมืองใหญ่เข้าครอบงำ เริ่มมีความคิดว่าเงินคือทุกอย่าง คนเราใช้ชีวิตยากถ้าปราศจากเงิน
        
                  จากการเปิดเผยดังกล่าว จึงนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหูในสังคมจีนไประยะหนึ่งเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า จาง ซินหยาง เป็นคนอัจฉริยะ หรือเป็นคนหัวรั้นที่มีความคิดไม่เหมือนใคร และไม่ยอมฟังใครกันแน่ จริง ๆ แล้วจางควรจะใช้ความรู้หาเงินซื้อบ้านเอง มากกว่าจะขู่ให้ทางบ้านซึ่งมีฐานะไม่ค่อยดีซื้อบ้านให้ แล้วอ้างว่าตัวเองช่วยสานฝันของพ่อได้ ขณะที่อีกกระแสหนึ่ง ก็ได้กล่าวโทษทางมหาวิทยาลัย ที่สนับสนุนให้เด็กเรียนก่อนวัยมากเกินกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นการเห็นดีเห็นงามกับการให้เด็กเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ไม่ได้สัมผัสกับโลกของเด็กอย่างที่วัยของเขาควรจะเป็น
        
        
ทั้งนี้ ปัจจุบันจางกำลังเรียนระดับปริญญาเอกอยู่ในปักกิ่ง และพ่อก็ไม่ได้ซื้อบ้านให้เขาแต่อย่างใด เพราะในที่สุด หลังจากโดนวิพากษ์วิจารณ์ไปคราวนั้น เขาก็ยอมรับว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่คนทุกคนจะมาเข้าใจความคิดของเขา จึงกลับไปเรียนระดับปริญญาเอกโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ อีก
        เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
        ขอขอบคุณภาพประกอบจาก 3.bp.blogspot.com

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

14 มิถุนายน นี้ ขอเชิญรับฟังบรรยายธรรม สร้างสรรค์การดำเนินชีวิต


14 มิถุนายน นี้ ขอเชิญรับฟังบรรยายธรรม สร้างสรรค์การดำเนินชีวิต





     14 มิถุนายน 2555 นี้ มหาวิทาลัยนเรศวร ขอเชิญคณาจารย์ นิสิตและผู้สนใจ ร่วมรับฟังบรรยายหลักธรรมนำชีวีการดำเนินชีวิตที่ดีและมีความสุข  โดยวิทยากร พระอาจารย์รักเกียรติ รักขิตะธัมโม  ณ ห้องประชุมอาคารขวัญเมือง มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

          คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ตระหนักถึงความสำคัญการส่งเสริมให้นิสิต บุคลากร ประชาชนได้รับองค์ความรู้ จากการบริการวิชาการเพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ ซึ่งการได้รับองค์ความรู้เพื่อพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความคิด มีทิศทางชีวิตที่สร้างสรรค์ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงได้มีการจัดโครงการหลักธรรมนำชีวีการดำเนินชีวิตที่ดีและมีความสุขขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก พระอาจารย์รักเกียรติ รักขิตะธัมโม เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ธรรมะเปลี่ยนทุกข์เป็น (สาธารณ) สุขได้” ทั้งนี้ “พระอาจารย์รักเกียรติ รักขิตะธัมโม” ในอดีตคือ “นายรักเกียรติ สุขธนะ” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นักการเมืองดาวรุ่งแห่งภาคอีสานเคยเป็น ส.ส. 7 สมัย ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีอีก 5 สมัยและมีความเชื่อว่า สักวันเขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนอีสาน แต่ด้วยปัญหาชีวิต จึงหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ปัจจุบันพระรักเกียรติ ใช้ชีวิตอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมวังพญานาค วัดใหม่สุขธนะศรีนคราราม บ้านชัยวัง ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งผู้เข้าร่วมรับฟังจะได้รับประสบการณ์และเทคนิคการทำงานเป็นจิตสาธารณ อย่างความสุข เทคนิคทักษะต่างๆ ในการดำเนินชีวิตที่ดีอีกทางหนึ่ง
          โอกาสนี้ขอเชิญนิสิต อาจารย์ และบุคลากรผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ในวันที่ 14 มิถุนายน 2555 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โทรศัพท์ 0-5596-8647  ในวันและเวลาราชการ
...............................................................
นางสาวจริญญา ศรีนวลอ้าย นิสิตฝึกงาน: ข่าว
งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร
www.nu.ac.th 335/2555


การบ้านครั้งที่1



การกระจายเชิงพื้นที่
      การกระจายเชิงพื้นที่ คือการจัดเรียงของปรากฏการณ์ต่างๆ ของผิวโลก และ การแสดงผลกราฟฟิกดังกล่าวจัดเป็นเครื่องมือสำคัญในทางภูมิศาสตร์และ  สถิติแวดล้อม การแสดงผลกราฟิกของการกระจายเชิงพื้นที่อาจสรุปข้อมูลดิบโดยตรงหรืออาจสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนมากขึ้นผลของ การวิเคราะห์ข้อมูลแง่มุมที่แตกต่างของปรากฏการณ์ที่สามารถแสดงในแบบกราฟิกหน้าจอเดียวโดยใช้ตัวเลือกที่เหมาะสมของสีที่แตกต่างกันเพื่อแสดงความแตกต่าง
ความแตกต่างเชิงพื้นที่

    พื้นที่แต่ละที่มีความต่างกันในแต่ละด้านไม่ว่าจะเป็นด้านกายภาพหรืสภาพแวดล้อม บริเวณที่ราบและบริเวณภูเขาการใช้ที่ดินก็ต่างกันด้วยปฎิสัมพันธ์เชิงพื้นที่
ปฏิสัมพันธ์เชิงพื้นที่
เกิดจากการไหลของผลิตภัณฑ์, คน, บริการหรือข้อมูลในสถานที่ในการตอบสนองต่อการจัดหาและความต้องการของท้องถิ่นมันเป็นอุปทานการขนส่งและความสัมพันธ์กับความต้องการที่มักจะแสดงเหนือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ทางพื้นที่มักจะมีความหลากหลายของการเคลื่อนไหวเช่นการเดินทางย้ายถิ่น, การส่งข้อมูล, การเดินทางไปทำงานกิจกรรมค้าปลีกหรือการกระจายสินค้าบางทีภูมิศาสตร์การขนส่งชั้นนำของศตวรรษที่ยี่สิบ มากขึ้นอย่างเป็นทางการปฏิสัมพันธ์เป็น การโอน (เป็นไปได้ของการขนส่งของดีหรือผลิตภัณฑ์ที่มีค่าใช้จ่าย ว่าตลาดจะแบก), และการขาดโอกาสในการแทรกแซง
ช่วงเวลาของพื้นที่
ช่วงเวลาในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันออกไปในช่วงของการแบ่งเขตเวลา การกระทำหรือกิจกรรมที่ก็จะต่างกันออกไปตามช่วงเวลาของพื้นที่แต่ละส่วน เช่นการแบ่งเวลาในแต่ล่ะประเทศ
การแพร่กระจายเชิงพื้นที่
เป็นการแพร่กระจายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเช่นการแพร่กระจายของวัฒนธรรมต่างๆ การแพร่กระจายของโรคระบาดต่างๆ การแพร่กระจายของนกอพยพ

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

บางระกำน้ำท่วมนาข้าวเสียหาย2,000ไร่


บางระกำท่วมแล้วนาข้าวเสียหาย2,000ไร่


วัน ที่ 9 มิถุนายน 2555  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสถานการณ์ฝนตกในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ส่งผลให้น้ำได้ไหลลงสู่คูคลองตามธรรมชาติต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ หมู่ 9 บ้านตะแบกงาม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในภาคเหนือ น้ำจากแม่น้ำปิง จ.กำแพงเพชร น้ำจาก จ.สุโขทัย
 ได้ไหลผ่านมายังแม่น้ำยม และคลองกล่ำ คลองเกตุ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ของ หมู่ 9 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ เสียหายกว่า 2,000 ไร่แล้ว



นายธวิทย์ เหลือสิงห์บุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้าน.ตะแบกงาม ต.ชุมแสงสงคราม กล่าว่า หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ประกอบกับปริมาณน้ำเหนือมาเร็วเฉกเช่นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในคลองเกตุ คลองกล่ำที่ทางกรมชลประทาน กำลังขุดลอกคลองเพื่อรองรับน้ำท่วมของรัฐบาล และยังไม่แล้วเสร็จเหลือเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะนี้น้ำได้ไหลท่วมคลองดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปริมาณน้ำก็ได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่นาของชาวบ้านนับ100 รายทีเดียว ส่งผลให้ในวันนี้ชาวนาต้องเร่งเก็บเกี่ยวข้าวที่ปลูกไว้ก่อนกำหนดถึง 15 วัน ส่งผลให้ข้าวที่เก็บเกี่ยวในวันนี้เขียวและไม่ได้ราคา


 


นางเสาวลักษณ์ ทองรอด  เกษตรกร หมู่ 9  กล่าวว่า ตนเองทำนานกว่า 70 ไร่ แต่ขณะนี้น้ำจากคลองเกตุ คลองกล่ำ ได้ล้นจากตลิ่ง ส่งผลให้พื้นที่นาของตนเองกำลังถูกน้ำท่วมขัง ตนเองต้องลงทุนจ้างรถแบ็กโฮ มาทำคันนบกั้นน้ำเข้านาให้สูงขึ้นอีกจำนวนกว่า 10,000 บาท แต่ก็ไม่สามารถกั้นน้ำอยู่ได้ต้องเร่งสูบน้ำออกจากนาแล้วเกี่ยวข้าวที่เขียว อยู่นี้ ไปขายให้กับโรงสี โดยที่ได้ราคาเพียงตันละ4,600 บาทเท่านั้น แต่เข้าร่วมโครงการรับจำนำ หรือ ขายฝาก ก็จะได้เพียงตันละ 9,000 บาท ซึ่งตนเองก็ต้องขายสดดีกว่า เพราะเห็นเงินเร็ว เพื่อให้ได้เงินคืนมาบ้าง ถึงแม้ว่าจะขายขาดทุนก็ตาม




ด้านนายอนุชิน ค้าพงพันธ์ เกษตรกรอีกราย กล่าวข้าวของตนเองเหลืออีก 20 วันก็จะขายได้ แต่น้ำมาก็ต้องรีบเกี่ยวขายให้เร็วที่สุด เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะท่วมนา เหมือนปีที่ผ่านมาและไม่สามารถเก็บเกี่ยวอะไรได้เลย โดยในวันนี้ไปขายที่โรงสีบางแห่งไม่รับซื้อ เนื่องจากข้าวเขียวเกินไป แต่ก็ต้องตระเวนขายอีกแห่งก็จะไม่รับซื้อเหมือนกัน แต่ตนเองขอร้อง ด้วยคามเกรงใจเจ้าของโรงสีดังกล่าว ก็รับซื้อในราคาเพียง 4,000 กว่าบาทเท่านั้น



สำหรับโครงการขุดลอกคลองเกตุ-คลองกล่ำ ในเขตม.9 บ้านตะแบกงามนั้น รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณเร่งด่วนเพื่อช่วยระบายน้ำที่ท่วมขังในเขต จ.สุโขทัย และจ.พิษณุโลกให้ไหลลงสู่แม่น้ำยมเร็วขึ้น โครงการขุดลอกคลองเกตุ ม.9 บ้านตะแบกงาม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ วงเงิน 11.3 ล้านบาท ดำเนินงานโดย โครงการชลประทานพิษณุโลก คืบหน้าไปแล้ว 56 % และ โครงการขุดลอกคลองกล่ำ ม.9 บ้านตะแบกงาม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ วงเงิน 20 ล้านบาท ดำเนินงานโดยชลประทานพิษณุโลก คืบหน้าไปแล้ว 61 %